ทำบุญ แล้วคุณได้อะไร?








เมื่อพูดถึง การทำบุญ แน่นอนหลายคนคิดถึง ศาสนาพุทธ (ความจริงแล้วทุกศาสนาก็มีการทำบุญเช่นกัน)

การทำบุญในพุทธศาสนา ในทางปฏิบัติจริง ถ้ามองดูถึงความรู้สึกของการทำบุญของแต่ละคน ย่อมแตกต่างกัน เพราะการมองแก่นของศาสนาพุทธ ก็ไม่เท่ากัน บางคนเข้าใจไปอย่างหลากหลายความคิด ก็เปรียบเสมือน บัวสี่เหล่า ในศาสนาพุทธ

เมื่อมองการทำบุญในพุทธศาสนา คนจำนวนหนึ่งก็ทำเพราะเป็นวิธีปฏิบัติเท่านั้น แต่หาได้เข้าถึงแก่นศาสนาไม่ ที่ผมพบบ่อยคือ เค้าให้งดการนินทาในวันบุญใหญ่ ก็ปฏิบัติตาม บ้างก็ปล่อยปลา ตามความเชื่อพื้นฐาน แต่หาได้ขัดเกลาจิตใจตัวเองได้เลย หลังจากวันบุญใหญ่ผ่านไป ก็ปฏิบัติตัวเหมือนเดิม จิตเมตตาไม่ได้เกิดในจิต

วันทำบุญในทางพุทธศาสนา เป็นแต่เพียงวาระปฏิบัติ เพื่อให้คนได้เข้าวัด ทำบุญ จริงหรือไม่ ถ้ารูปแบบการปฏิบัติไม่สามารถเข้าซึมลึกเข้าไปในจิตใจคนไทย ถ้ามองดูรอบกายเรา โดยที่เรามักบอกเสมอว่า บ้านเราเป็นเมืองพุทธ แต่คนในชาติหาได้ปฏิบัติด้วยจิตแห่งพุทธไม่ การเข้าถึงแก่นพุทธศาสนาดูจะลางเลือนลงไปทุกที

บางคนก็ว่า ก็ด้วยพระสงฆ์ทำตัวไม่ดี หรือความหลากหลายในประเทศเรามันเยอะซะจน คนหลงไหลไปกับเรื่อง ปาฏิหารย์ มากกว่า วิถีธรรม

แต่ถ้ามองในอีกมุมของการทำบุญ เหมือนว่า คนหมกมุ่นกับ อดีต และอนาคต บางคนมุ่งหวังทำบุญเพื่อล้างกรรมในอดีต บางคนทำบุญเพื่อผลบุญในโลกอนาคต มันจริงหรือที่พระพุทธเจ้าตรัสให้นึกถึงกรรมในอดีต หรือไปยึดติดกับผลบุญในอนาคต หรือจิตควรอยู่ ณ. ปัจจุบัน

การทำบุญ เพื่อให้ได้เนื้อนาบุญ อย่างแท้จริงในสังคมปัจจุบัน ดูด้อยค่าลงไปเยอะ เพราะผู้คนมีเวลาน้อยลง ต้องใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ ประกอบกับมีกิเลสติดให้ทำมากขึ้น ไม่ว่าจะ แช็ท แชร์ กดไลค์ การเข้าถึงแก่นศาสนาน้อยลง ชีวิตไม่เป็นสุข ทุกข์มาก ถึงเวลาวันทำบุญใหญ่ ก็ทำเป็นเพียงพิธีไป หาได้ใส่ใจ มีดีกว่านั้นยังเอารูปทำบุญไปให้ชาวบ้านกดไลค์!

สรุปเลยดีกว่า ว่าการทำบุญ ในวันบุญใหญ่ คือการละกิเลสทั้งปวง เพื่อขัดเกลาจิตใจตัวเองให้ผ่อนลง อะไรที่เคยยึดติดแล้วมันทำให้ชีวิตต้องทุกข์ ก็ควรจะ ละ เลิก พยายามปฏิบัติให้อยู่ในทางสายกลาง แล้วชีวิตจะเป็นสุข

แชร์เรื่องราวธรรมะดีๆ

0 ความคิดเห็น: